จากถ่านหินอ่าวไทย สู่ถ่านหินอันดามัน จากหายนะศรีราชา สู่หายนะกระบี่

จากถ่านหินอ่าวไทย สู่ถ่านหินอันดามัน จากหายนะศรีราชา สู่หายนะกระบี่

เกิดเหตุไฟไหม้เรือบรรทุกถ่านหิน กลางทะเล

ศูนย์ข่าวศรีราชา – เรือบรรทุกถ่านหินเต็มลำ กำลังจะเข้าเทียบท่าเรือศรีราชาฮาเบอร์ ถ่านหินทำปฏิกิริยากับอากาศ เกิดประกายไฟลุกไหม้ทั้งลำ

วันนี้ (18 มี.ค.) พ.ต.ท.มนัสการ นิลกำแหง สารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 1 กองกำกับการ 5 ตำรวจน้ำศรีราชา เผยว่าเมื่อเวลา 19.00 น. ได้ รับแจ้งว่า เกิดเหตุไฟลุกไหม้เรือบรรทุกถ่านหิน ที่บริเวณ ท่าเรือศรีราชาฮาเบอร์ อำเภอศรีราชา จังหวัด ชลบุรี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบในเกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุพบเรือบาส ชื่อ Berkah 33 สัญชาติ สิงคโปร์ โดยมีกัปตัน และ ลูกเรือเป็นชาวอินโดนีเซีย จำนวน 9 คน บรรทุกถ่านหิน จำนวน 8000 ตัน กำลังจะนำเข้าเทียบท่าเรือศรีราชาฮาเบอร์ แต่ในระหว่างนั้น ถ่านหินซึ่งมีคุณสมบัติติดไฟได้ เพื่ออยู่ในสภาวะที่เหมาะ และทำปฏิกิริยากับอากาศ จึงทำให้เกิดประกายไฟและลุกไหม้

ทางเจ้าหน้าที่จากเจ้าท่า ไม่ให้นำเรือเข้าฝั่ง จึงไปจอดลอยลำอยู่กลางทะเล ห่างจากฝั่งประมาณ 2 กิโลเมตร โดยซึ่งอยู่ระหว่าง ท่าเรือศรีราชา ฮาเบอร์ กับเกาะสีชัง โดยลูกเรือและกัปตันได้ช่วยกันทำการดับไฟ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง เพลิงสงบลงคงแค่ยังมีควันไฟพวยพุงอยู่ตลอดเวลา โดยไม่ได้ลุกลามไปยังเรือลำอื่นๆ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบถามหาข้อมูลที่แน่ชัด ก่อนจะสรุปอีกครั้ง รวมถึงมูลค่าของความเสียหายในครั้งนี้

สำหรับถ่านหิน (coal) คือหินตะกอนชนิดหนึ่งซึ่งสามารถติดไฟได้ มีส่วนประกอบที่สำคัญคือ สารประกอบของคาร์บอน ซึ่งจะมีอยู่ประมาณไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 โดยน้ำหนักหรือร้อยละ 70 โดยปริมาณ

ถ่านหินมีกำเนิดมาจากการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของพืชพันธุ์ไม้ต่างๆ ที่สลายตัวและสะสมอยู่ในลุ่มน้ำหรือแอ่งน้ำต่างๆ นับเป็นเวลาหลายร้อยล้านปี เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของ ผิวโลกเช่น เกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด หรือมีการทับถมของตะกอนมากขึ้น ทำให้แหล่งสะสมตัวนั้นได้รับความกดดันและความร้อนที่มีอยู่ภายในโลกเพิ่มขึ้น ซากพืชเหล่านั้นก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นถ่านหินชนิดต่างๆ

ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิลซึ่งมีปริมาณสำรองอยู่มาก โดยแหล่งถ่านหินกระจายอยู่ในประเทศต่างๆทั่วโลก ทำให้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงที่มีความมั่นคงสูง ส่งผลให้มีราคาถูกกว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ก๊าซธรรมชาติและน้ำมันเตา

ที่มา : http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?newsid=9570000030983

ใส่ความเห็น